เมนู

ยถาปิ องฺคสมฺภาโร โหติ สพฺโพ รโถ อิติ
เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ โลโก สตฺโตติ สมฺมตีติ

กระแสความว่า สพฺโพ รโถ อิติ อันว่าสัมภาระเครื่องรถพร้อมทั้งหมด ได้นามบัญญัติ
เรียกว่า ยถา มีครุวนาฉันใด สตฺโตติ สมฺมติ ได้ชื่อว่าสัตว์ว่าบุคคลนี้ก็อาศัยมีขันธ์พร้อม
5 ประการ เอวํ เมาะ ตถา เปรียบปานดังรถนั้น ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดี ทรงพระสวนาการแก้ปัญหาฉะนี้ มีน้ำพระทัย
ท้าวเธอปรีดาปราโมทย์ออกพระโอษฐ์ตรัสซ้องสาธุการว่า สธุสะพระผู้เป็นเจ้าช่างแก้ปัญหา
อจฺฉริยํ โยมอัศจรรย์นักหนา โยมสำคัฐว่าอยู่โยมแล้วทีเดียว พระผู้เป็นเจ้านี้เฉลียดฉลาด
สามารถนักหนา กลับกล่าวปัญหาเปรียบเทียบอุปมาวิจิตรให้คนทั้งหลายคิดเห็นกระจ่างแจ้งแจ่มใส
ยทิ พุทฺโธ ติฏฺเฐยฺย ถ้าแม้ว่าสมเด็จพระชิเนนทรทศพล ยังสถิตมีพระชนม์อยู่นี้จะโปรดปราน
ตรัสสาธุการประทานที่ฐานันดร ให้เป็นเอกบุคคลข้างแก้ปัญหา ในกาลบัดนี้
นามปัญหา คำรบ 1 จบเท่านี้

วัสสปัญหา ที่ 1


สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามวัสสปัญหาสืบต่อไปว่า
ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า กติวสฺโส พระผู้เป็นเจ้ามีวรรษาเท่าไร
พระนาคเสนถวายพระพรว่า อาตมามีวรรษาได้ 7 วรรษา
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสซักว่า ภนฺเต นาคเสน ข้า
แต่พระผู้เป็นเจ้านาคเสน วรรษานับได้ 7 ปีนั้น นับพระผู้เป็นเจ้าเข้าด้วยหรือ หรือว่านับแต่ปีนั้น
7 มิได้อาศัยผู้เป็นเจ้า ในกาลบัดนี้
กิร ดังจะรู้มาว่า พระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีวันนั้นทรงเครื่องปิลันธนาภรณ์พวกดอกไม้
มีพระฉายปรากฏลงไปที่อุทกมณิกากะละออมแก้ว พระนาคเสนเห็นประจักษ์แล้วจึงถวายพระพร
ว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐในสิริมไหศวรรย์ พระฉายที่ปรากฏใน
กะละออมแก้วนั้น นับเนื่องอาศัยในพระองค์ของมหาบพิตรด้วยหรือประการใด

กรุงมิลินท์ปิ่นสาคลราชธานีจึงมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า
เงาที่ปรากฏในกะละออมแก้วนี้ก็อาศัยเนื่องไปแต่ตัวโยม
พระนาคเสนก็โน้นน้อมเป็นอุปมาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร
ผู้ประเสริฐในสิริมไหศวรรย์ วรรษาของอาตมานี้ก็เหมือนกัน อาศัยอาตมาบรรพชามาคณนานับได้
7 พระวรรษา ในกาลบัดนี้
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นพิภพ ได้ทรงฟังก็นอบนบซ้องสาธุการว่า สธุสะปัญหาเปรียบ
ของพระผู้เป็นเจ้าเอามาเปรียบนี้ไม่ผิด ฟังนี้วิจิตรอัศจรรย์ครัน
วัสสปัญหา คำรบ 2 จงเท่านี้

เถรัสสติกขปฏิภาณปัญหา ที่ 3


อถ โข มิลินโท ราชา

ครั้งนั้นสมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดี มีสุนทรพจ-
นารถพระราชโองการถามอรรถปัญหาสืบไปว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า
อันว่าบรรพชาของพระผู้เป็นเจ้านี้ โก ปรมตฺโถ มีประโยชน์อันอุดมดีอย่างไร กิมตฺถิยา
ประโยชน์ด้วยสิ่งอันใดจึงบรรพชา พระผู้เป็นเจ้าจงวิสัชนาแก้ไขให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนจึงถวายพระพระว่า มหาราช ดูกรบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐในสิริ
ราชมไหศวรรย์ บรรพชาของอาตมานั้นเป็นประโยชน์ดับเสียซึ่งทุกข์ที่มีในสันดาน แล้วมิให้
ทุกข์ประการอื่นบังเกิดได้ ประการหนึ่งบรรพชาของอาตมานี้ประเสริฐยิ่งนัก จักให้เป็นประโยชน์
แก่มนุษย์นิกรเทวดา มนุษย์นิกรเทวดาไหว้นบเคารพบูชาถวายไทยทาน บรรดาที่จะให้เกิดผล
เมื่อสิ้นชนม์มรณกาลแล้ว เดชะผลที่ได้กระทำสักการถวายทานแก่รูปอันบรรพชาก็จะปิดเสียซึ่ง
ประตูจตุราบาย ก็จะได้ไปชมสมบัติ 3 ประการ คือมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ
เหตุฉะนี้รูปจึงว่า บรรพชาของรูปนี้โสด จะให้เป็นประโยชน์แก่นิกรมนุษย์เทวดาทั้งหลาย
ขอถวายพระพร
พระจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นสาคลนคร ได้ทรงฟังพระนาคเสนสำแดงแจ้งกระจ่าง ก็มิได้มี
ทางที่จะซักไซ้ ก็หันเหเสประภาษพจนารถอื่นไปว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้านาคเสน
โยมนี้อยากจะใคร่พูดอยากใคร่เจรจาพาทีกันด้วยพระผู้เป็นเจ้านักหนา